กรุณาเล่าถึงตัวคุณ
ผมเกิดและเติบโตมากับพี่น้องอีกสามคนในกรุงเทพ ประเทศไทย ตอนนั้นผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมาทำอาชีพนี้ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในวัยเด็กฝึกซ้อมเพื่อเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้มีโอกาสไปศึกษาต่างประเทศคือที่มิชิแกน สหรัฐอเมริกา ที่ต่อมาผมได้พบรักกับภรรยาของผม ตอนนี้ ผมเป็นคุณพ่อลูกสอง ทำงานสองงานและใช้เวลาที่มีความสุขกับครอบครัว
เมื่อนึกถึงทะเลคุณคิดถึงอะไร? มันมีความหมายกับตัวคุณอย่างไร?
ทะเลนำความสุขมาให้ครอบครัวของผมอย่างมาก ครอบครัวผมรักทะเล โดยเฉพาะลูก ๆ ขออย่างตัวผมก็เป็นนักดำน้ำตัวยงมานานกว่า 30 ปีแล้ว เช่นเดียวกับลูกชายลูกสาวของผมที่เริ่มดำน้ำมาตั้งแต่อายุ 12 (ตอนนี้คนหนึ่งอายุ 28 อีกคนอายุ 26 ปี) เราแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ไปทะเลอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
คุณมองว่าปัญหาใหญ่ที่สุดที่ทะเลไทยกำลังเผชิญอยู่ในปี 2563 คืออะไร?
ผมเห็นความท้าทายสำคัญสองประการคือ (1) เศษพลาสติกในทะเลและ (2) ภาวะโลกร้อน ขยะพลาสติกไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดมลพิษในมหาสมุทร แต่ยังคร่าชีวิต และเหล่าพลาสติกจิ๋วยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารอีกด้วย เมื่อพูดถึงภาวะโลกร้อน อุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นส่งผลให้ปะการังถูกทำลายอย่างมากมาย ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมเห็นปะการังในบางจุดดำน้ำที่ผมชอบกลายเป็นปะการังฟอกสีไปเยอะทีเดียว มันน่าเศร้านะ
กรุณาเล่าเรื่องงานของคุณให้เราฟังสักหน่อย งานของคุณช่วยลดมลพิษพลาสติกในทะเลได้อย่างไร?
ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ก่อตั้งกลุ่มร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดการพลาสติกและขยะแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2561 โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดขยะพลาสติกทางทะเลในประเทศไทยลง 50% ภายในปี 2571 เราเรียกโครงการนี้ว่า Thailand PPP Plastic ซึ่งประกอบด้วยผู้ร่วมโครงการจากภาครัฐและเอกชนรวมถึงองค์กรพัฒนาเอกชนด้วย ขณะนี้เรามีผู้ร่วมโครงการ 42 องค์กร เราได้แบ่งงานออกเป็นด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ การส่งเสริมและการศึกษา นวัตกรรม จนถึงการสร้างฐานข้อมูล