เอเรียล ปาโบล-เม็นเดส ศาสตราจารย์ทางการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเมืองนิวยอร์ก ผู้ร่วมอภิปรายได้เห็นความสำคัญของการสร้างความเข้าใจคุณค่าทางเศรษฐกิจของ UHC แก่ประเทศต่าง ๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาคิดว่ามันจะทำลายเศรษฐกิจ “UHC ไม่ได้หมายถึงการใช้จ่ายเงินที่มากขึ้น แต่เป็นการจัดระเบียบการใช้ทรัพยากรในประเทศเสียใหม่ให้ห่างจากการต้องควักกระเป๋าจ่าย” ปาโบล-เม็นเดส กล่าว
“สุขภาพก็เป็นเงินเช่นกัน” แดเนียล ดูลิทสกี ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคแห่งธนาคารโลกกล่าว
แดเนียล ดูลิทสกี ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคแห่งธนาคารโลกกล่าวว่า เราต้องทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่การเงินในประเทศต่าง ๆ “พูดภาษาเดียวกัน” ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลที่ธนาคารโลกจัดทำโครงการดัชนีทุนมนุษย์ (Human Capital Index) เพื่อแสดงให้เห็นว่าการลงทุนด้านสุขภาพและการศึกษาของประเทศจะช่วยเพิ่มผลิตผลของกำลังแรงงานในอนาคต “เวลาเป็นเงินแต่สุขภาพก็เป็นเงินเช่นกัน” ดูลิทสกี กล่าว
การระดมทุนเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่อีกประการสำหรับ UHC ด้วยช่องว่างทางการเงินสำหรับประเทศที่ยากจนที่สุด 54 ประเทศที่คาดว่าจะสูงถึง 175 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีพ.ศ. 2573 การเพิ่มเงินทุนภายในประเทศเพื่อสุขภาพนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพราะการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาเป็นเพียงแค่ "เศษเงิน" ในกรณีนี้ เขากล่าว
ประเทศต่างๆจะต้องระดมทรัพยากรทางเศรษฐกิจและจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่าการให้บริการด้านสุขภาพของพวกเขาคุ้มค่าโดยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเบื้องต้นเป็นอันดับต้น ๆ ดูลิทสกีกล่าว
นาโอโกะ ยามาโมโตะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกด้าน UHC / Healthier Populations กล่าวว่า UHC เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ“การเมืองเป็นอย่างมาก” และเป็นทางเลือกทางการเมืองที่ผู้นำทางการเมืองระดับสูงหลายคนมุ่งมั่นดำเนินการ อย่างไรก็ตาม UHC ก็เป็นเรื่องทาง “ระบบสังคม” ด้วยซึ่งประชากรต้องเข้ามามีส่วนร่วม “การเจรจาที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจาระดับสถาบันมีความสำคัญมาก (สำหรับ UHC)” เธอกล่าว
“จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง—จริงๆ” ขวท ธิ ไฮ โอนห์ ผู้อำนวยการบริหารสภาองค์กรบริการเอดส์แห่งเอเซียแปซิฟิกกล่าว
ขวท ธิ ไฮ โอนห์ ผู้อำนวยการบริหารสภาองค์กรบริการเอดส์แห่งเอเซียแปซิฟิกกล่าวว่าแม้ว่าการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติ (UN-HLM) ในเรื่อง UHC เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทางการเมืองในทางนโยบาย ประเทศต่างๆในปัจจุบันยังต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อทำตามคำขวัญ SDG ที่ว่า “จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
“หากมีประเทศหนึ่งบอกว่า (UHC) ของเขาคุ้มครอง 80% เราต้องถามว่าแล้วส่วนที่เหลืออีก 20% เล่าคือใคร ใครที่ไม่ถูกนับรวมและหาทางรวมพวกเขาเข้าไป” โอนห์กล่าว
“เราต้องรวมเยาวชนเข้าไปด้วย” เอวาลิน คาริโจ ผู้อำนวยการ Y-ACT เยาวชนนักเคลื่อนไหว Amref Health Africa กล่าว
กลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกรวมเข้าไปมากนักคือกลุ่มเยาวชน เอวาลิน คาริโจ ผู้อำนวยการ Y-ACT Youth in Action, Amref Health Africa กล่าว “มีเยาวชน 1.2 พันล้านคนหรือคิดเป็น 16% ของประชากรโลกและ ในแอฟริกาคิดเป็น 70% ของประชากร” เธอกล่าว “แต่มันยังขาดการลงทุนและขาดทรัพยากรที่เพียงพอสำหรับเยาวชน แม้ว่าพวกเขามีแนวโน้มที่ต้องเผชิญกับการว่างงานมากกว่าผู้ใหญ่ถึงสามเท่า”
นอกจากการลงทุนในการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ยังต้องมีการปรับแพคเกจประโยชน์ทางด้านสุขภาพให้เหมาะสมกับเยาวชนด้วย นอกจากนี้พวกเขาจะต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจและเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเพื่อพัฒนา UHC คาริโจกล่าว
แอนเดอร์ส นอร์ดสตรอม ทูตด้านสุขภาพระดับโลก กระทรวงการต่างประเทศสวีเดนกล่าวจากประสบการณ์ของประเทศสวีเดนว่า ประเทศต่างๆจะต้องทำมากกว่า UHC เพื่อลดช่องว่างด้านสุขภาพระหว่างคนในกลุ่มสังคมและเศรษฐกิจที่ต่างกัน “เราต้องแก้ปัญหาสังคมโดยรวมเพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนมีสุขภาพทีดี...ทำให้สังคมปลอดภัย ถนนปลอดภัย ปลอดจากความรุนแรง สะอาดและมีอากาศที่สะอาดขึ้น และได้รับการสนับสนุนให้มีทางเลือกเพื่อสุขภาพในเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ นั่นคือที่สวีเดนในขณะนี้” นอร์ดสตรอมกล่าว
ผู้ร่วมอภิปรายทุกคนเห็นพ้องกันว่าในขณะนี้ประเทศต่าง ๆ จะต้องแปลงแถลงการณ์ทางการเมืองของการประชุมระดับสูงว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าขององค์การสหประชาชาติ (UN-HLM) ให้เป็นแผนการดำเนินงานจริงเพื่อบรรลุเป้าหมาย UHC ภายในปีพ.ศ. 2573 รัฐบาลต้องมีเจตจำนงทางการเมือง ความมุ่งมั่น และความเป็นผู้นำในระดับสูงสุดในการระดมทรัพยากรภายในประเทศเพื่อมาผลักดันระบบบริการสุขภาพให้กลายเป็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ให้การดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและการป้องกันปัญหาทางการเงินจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องระลึกไว้คือ UHC ไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงเรื่องการพัฒนาในวงกว้างด้วย เช่น การลดความยากจน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความไม่เท่าเทียมทางสังคม เป็นต้น